วิธีป้องกันเหงือกร่น มีวิธีใดบ้าง
เหงือกร่น (Gingival Recession) คือ อาการที่เนื้อเยื่อเหงือกบริเวณรอบ ๆ ฟันอ่อนแอลงจนทำให้เนื้อเหงือกค่อยๆ ร่นเข้าไปหารากฟันและทำให้เห็นตัวฟันมากขึ้น บางรายเนื้อเหงือกอาจร่นไปจนเผยให้เห็นรากฟันทำ ให้เนื้อฟันสัมผัสกับเชื้อแบคทีเรียมากขึ้น และทำให้เกิดคราบหินปูน ซึ่งอาจเป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรค ก่อให้เกิดปัญหาเกี่ยวช่องปากอื่นๆ ตามมา อาการเหงือกร่นไม่สามารถรักษาให้หาย หรือกลับมาเป็นเหมือนเดิมได้ ทำได้เพียงป้องกันเหงือกร่นลงไปอีก นอกจากนี้ ผู้ป่วยยังควรรักษาอาการเหงือกร่น เพราะหากปล่อยไว้จะทำให้เกิดความเสียหายของกระดูกฟัน จนทำให้ฟันไม่แข็งแรงและหลุดร่วงไปในที่สุด
สาเหตุของเหงือกร่น
- การแปรงฟันผิดวิธี การเลือกแปรงสีฟันที่มีขนแปรงแข็งมากเกินไป หรือการแปรงฟันแรงๆ จะส่งผลให้เนื้อเยื่อเหงือกเสียหายและร่นขึ้นไปจนกลายเป็นเหงือกร่นได้
- สุขอนามัยช่องปากที่ไม่ดี การแปรงฟันไม่สะอาด ไม่ใช้ไหมขัดฟันหรือน้ำยาบ้วนปาก อาจก่อให้เกิดหินปูนเกาะระหว่างเหงือกและฟันได้ ซึ่งหากไม่รักษาก็จะทำให้เกิดเหงือกร่นในที่สุด
- เกิดอาการบาดเจ็บที่เหงือก เช่น อุบัติเหตุ การเจาะเหงือกและปากเพื่อความสวยงาม หรือการเล่นกีฬาที่อาจส่งผลให้เกิดการบาดเจ็บบริเวณปาก อาจทำให้เนื้อเยื่อเหงือกตายและร่นเข้าไปที่รากฟันได้เช่นกัน
- โรคปริทันต์อักเสบ เป็นโรคที่เกิดจากการอักเสบของเหงือก จนทำให้อวัยวะที่อยู่รอบตัวฟัน เช่น กระดูกรอบๆ รากฟันถูกทำลายจนมีขนาดลดลง เป็นสาเหตุทำให้เหงือกร่นตามลงมาด้วย
- พันธุกรรม ลักษณะทางพันธุกรรมบางอย่างที่ถ่ายทอดกันมาในครอบครัวอาจทำให้มีความเสี่ยงในการเกิดโรคที่เกี่ยวข้องกับเหงือกได้
- การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน สตรีมีครรภ์ และผู้ที่อยู่ในช่วงวัยหมดประจำเดือนจะมีระดับฮอร์โมนที่ผิดปกติ ซึ่งส่งผลต่อสุขภาพเหงือกได้โดยตรง ทำให้เหงือกอ่อนแอลง จนง่ายต่อการอักเสบและการสูญเสียเนื้อเยื่อได้
- การสูบบุหรี่ สารพิษที่อยู่ในบุหรี่เป็นตัวการสำคัญให้เกิดคราบพลัคที่ยากต่อการทำความสะอาด และหากทิ้งไว้เป็นเวลานานจะทำให้เกิดคราบหินปูน ซึ่งเป็นปัจจัยเสี่ยงให้เกิดเหงือกร่นได้
- พฤติกรรมผิดๆ ที่ติดเป็นนิสัย เช่น การกัดฟัน หรือเคี้ยวฟันขณะนอนหลับ ซึ่งจะส่งผลให้เกิดแรงกดจำนวนมากที่ฟัน และส่งผลไปยังเหงือก ทำให้เหงือกอ่อนแอลงจนร่นลงไปที่โคนฟันได้
- เกิดจากการใส่อุปกรณ์จัดฟันที่ไม่พอดี อุปกรณ์จัดฟันที่แน่นเกินไป หรือไม่เข้ากับรูปฟันของผู้ป่วย จะทำให้เหงือกอ่อนแอ และร่นลงจนเห็นเนื้อฟันมากขึ้น
การรักษาตามสาเหตุการเกิดควรปฏิบัติดังนี้
- เกิดจากพฤติกรรมการแปรงฟันที่ผิด ในกรณีที่พบว่าสาเหตุเกิดจากการแปรงฟันแรงๆ แพทย์จะแนะนำวิธีการแปรงฟันใหม่ให้เหมาะสมมากขึ้น ซึ่งผู้ป่วยควรปฏิบัติตามเพื่อไม่ให้อาการรุนแรงขึ้น
- เกิดจากโรคปริทันต์ ในเบื้องต้นแพทย์จะขูดหินปูนและเกลารากฟัน เพื่อขจัดคราบหินปูนที่เกาะตามฟันออก ซึ่งจะช่วยให้เนื้อเยื่อเหงือกแนบสนิทกับฟันอีกครั้ง และหากมีอาการอักเสบของเหงือก แพทย์อาจใช้ยาปฏิชีวนะร่วมด้วย เพื่อรักษาการอักเสบให้หาย ซึ่งผู้ป่วยจะต้องใช้ยาตามที่แพทย์กำหนด และรักษาความสะอาดของช่องปากให้มากขึ้นเป็นพิเศษ
- เกิดจากการใส่อุปกรณ์จัดฟันที่ไม่พอดี หากผู้ที่จัดฟันมีอาการเหงือกร่น แพทย์จะปรับอุปกรณ์จัดฟันให้พอดีกับช่องปากมากขึ้น จะช่วยให้อาการไม่เลวร้ายลงไปกว่าเดิมได้
ในกรณีที่เหงือกร่นมีอาการรุนแรง เช่นเนื้อเหงือกร่นลงมาจนเห็นรากฟันชัดเจน แพทย์อาจแนะนำวิธีการรักษาด้วยการผ่าตัดเข้ามาเป็นทางเลือกให้ผู้ป่วย โดยวิธีผ่าตัดทางทันตกรรมที่มักใช้ ได้แก่
- การซ่อมแซมกระดูก ในกรณีที่กระดูกที่รองรับฟันเกิดความเสียหายจากอาการเหงือกร่น การซ่อมแซมกระดูกและเนื้อเยื่อเป็นวิธีที่จะช่วยให้ฟันไม่เกิดความเสียหายได้ โดยแพทย์จะใช้เนื้อเยื่อเหงือกที่เพาะเลี้ยงภายนอก หรือเยื่อบุผิวเหงือกมาใช้ร่วมในการรักษา และปล่อยให้ร่างกายค่อยๆ ซ่อมแซมกระดูกและเนื้อเยื่อ วิธีนี้เมื่อการรักษาได้ผลตามที่ต้องการแล้ว เนื้อเยื่อเหงือกจะขึ้นมาปิดรากเหงือกได้ใกล้เคียงของเดิมมากที่สุด
- การปลูกถ่ายเนื้อเยื่อเหงือก เป็นการผ่าตัดเพื่อปลูกถ่ายเนื้อเยื่ออ่อนๆ บริเวณร่องฟันที่หายไปจากอาการเหงือกร่น โดยจะนำเอาเนื้อเยื่อจากบริเวณเพดานปากมาเย็บปิดบริเวณที่มีรากฟันโผล่ออกมา ให้เห็น หรือหากผู้ป่วยยังมีเนื้อเยื่อเหงือกบริเวณรอบๆ ฟันเพียงพอ ทันตแพทย์จะใช้เนื้อเยื่อบริเวณเหล่านั้นแทน และไม่ใช้เนื้อเยื่อจากเพดานปาก วิธีนี้อาจไม่ทำให้เหงือกกลับมาสู่สภาพปกติได้สมบูรณ์แต่ก็ช่วยให้รากฟันที่โผล่ออกมาจากอาการเหงือกร่นปลอดภัยจากการติดเชื้อ หรือการอักเสบได้
**หมายเหตุ: บทความนี้มีจุดประสงค์เพื่อเผยแพร่ความรู้เท่านั้น แนะนำให้ปรึกษาแพทย์หรือทันตแพทย์หากมีปัญหาหรือมีข้อสงสัยใดๆสนับสนุนข้อมูลโดย ทันตแพทย์ ธนพจน์ นิลโมจน์ คลินิค Club Smile